Writing 101 – DataRockie

Writing 11 - DataRockie
  1. The Value of Writing
  2. การเขียนกับ Business เป็นที่เรื่องเกี่ยวข้องกัน ?
  3. Where idea come from?💡
  4. Creative Process
  5. Second Brain
  6. Essay Writing
  7. Bloom’s Taxonomy
  8. Website คือ บ้านของเรา🏠
  9. ทำ SEO ให้เก่งยังไง ?
  10. Website Builder
  11. Four Eternal Markets
  12. วิธีเลือกหนังสือ

The Value of Writing

  • การเขียนเป็นทักษะสำคัญมาก เพราะการเขียนทำให้เราสามารถ shape ความคิด และพูดได้ดีขึ้น
  • การเขียนทำให้เราสามารถกผลึกความคิดของตัวเอง และ ช่วยฝึกสมาธิได้ดีขึ้น
  • การส่งต่อ idea ที่ดี โดยเริ่มจากการเขียนสามารถสร้าง impact บางอย่างต่อโลกและบุคคลได้
    • ยกตัวอย่าง เราเองได้ไปอ่านหนังสือ “ Atomic Habits “ ที่เขียนโดย James Clear โดยบังเอิญ กลายเป็นหนังสือเล่มนั้นเปลี่ยนชุดความคิดเราไปตลอดกาล เรากลายเป็นคนให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เมื่อสะสมไป จะสามารถกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต

การเขียนกับ Business เป็นที่เรื่องเกี่ยวข้องกัน ?

  • การจะทำธุรกิจให้รอดนั้น จำเป็นต้องมี traffic ก่อนมี product & service
  • บางครั้งธุรกิจไปไม่รอด เพราะมัวแต่สร้าง product โดยไม่สนใจ traffic ใดๆ
  • คนจะซื้อสินค้าครั้งแรกมักซื้อจาก content ไม่ได้ซื้อจากตัว product
  • ดังนั้น ปัญหาเรื่อง traffic จึงเป็นเรื่องใหญ่สุดในการทำการตลาด โดยเฉพาะ เวลาเรามีเงินจำกัด option เดียวที่เหลืออยู่ คือ การทำ “Organic Content” ดังนั้น Writing จึงเป็นทางเลือกนึงในการสร้าง organic content
  • ยกตัวอย่างเช่น เพจ DataRockie สร้าง traffic โดยการ เรียน/อ่าน > เขียน > แชร์ ออกมาเป็น Poddash สร้าง traffic ให้ผู้คนที่สนใจเข้ามาอ่าน จากนั้น Launch Product ออกมาเป็นคอร์ส Writing 101 เจ๋งงมากกก (สร้าง traffic ก่อน แล้วจะรู้ว่า product ไหนตอบโจทย์ลูกเพจ ) ปล. แม้จะเป็นคอร์สฟรี แต่เชื่อว่าต่อให้เสียเงินก็มีคนซื้อ 👍

Where idea come from?💡

  • Book: หาซื้อได้ที่ Kinokuniya, Asiabooks(แหล่งรวมหนังสือภาษาอังกฤษ) หรือจะเป็น SE-ED, นายอินทร์📚
    • Tips✨: หนังสือที่ดี เราจะอ่านมันให้ช้าลง เพื่อที่จะเข้าใจสิ่งที่หนังสือสื่อได้ดียิ่งขึ้น
  • YouTube: แหล่งรวบรวมความรู้ที่เข้าถึงได้ง่ายมากกก
  • Experience: การได้พบเจอผู้คนเยอะๆ ไปงาน conference นำสิ่งที่ได้มาสรุปสร้างเป็น content
  • Social Media: แหล่งรวมความรู้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น สรุป, content, short video etc.

ยิ่งเราอ่านเยอะ idea เราก็จะมีเยอะขึ้น ดังนั้น การที่เราได้เจอหนังสือดีๆสักเล่ม มันคือการบอกเล่าประสบการณ์ของคนๆนึง ที่อาจจะผ่านมา 20-30 ปี จากนั้น compress ประสบการณ์ทั้งหมดให้อยู่ในแค่หนังสือ 1-3 เล่ม นับถือเลย🙏

Creative Process

4 steps of CODE (from Building a second brain book)

CODE : Change raw input to creative output

  • C : Capture > เก็บ information ต่างๆ ใส่ใน second brain ของเรา ex. Notion, Evernote etc.
  • O : Organize > จัดเรียงข้อมูลให้อยู่ในที่ๆถูกต้อง folder ที่เหมาะสม
  • D : Distill > ย่อยข้อมูลออกมาเป็นภาษาของเราเอง Not Copy&Paste ให้คิดว่า Note วันนี้เพื่อเราในอนาคต
  • E : Express > Share ต่อให้โลกรู้

Second Brain

สมองคนเราเกิดมาเพื่อสร้าง idea ใหม่ๆ แต่ไม่สามารถเก็บ information หรือ idea นั้นๆ ไว้ทั้งหมดได้ ดังนั้นวิธี hold information นั้นๆไว้ โดยที่เราไม่ลืม นั่นคือ เราต้อง load information เข้าไปในสิ่งที่เรียกว่า second brain🧠

Tips✨

จดวันนี้เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของตัวเองในอนาคต เพราะมันจะมีสิ่งที่เรียกว่า compound effect of knowledge อีก 10 ปีข้างหน้าถ้าเรากลับมาอ่าน มันจะเป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่เทียบได้กับดอกเบี้ยทบต้นเลย

Essay Writing

Essay Writing : เป็นวิธีการเดียวที่ช่วยให้เราเรียนรู้ และตกผลึกกับสิ่งนั้นๆได้ดียิ่งขึ้น

คำถามที่คนส่วนใหญ่เจอ คือ เราจะเขียนแบบสั้นหรือแบบยาวดี ?

คำตอบคือ ควรเขียนให้ได้ทั้ง 2 แบบ แต่ละแบบควรอยู่ใน platform ที่ต่างกันออกไป

  • Short form content : ควรลงใน social media, facebook, X, thread
  • Long form content : ควรลงใน website, Youtube

Bloom’s Taxonomy

เป็น framework สำหรับการเรียน และสร้างองค์ความรู้ ส่วนตัวเห็นด้วยกับ framework นี้มากๆ แบ่งเป็น 6 ขั้นตอน

  • Remember : จดจำเนื้อหา
  • Understand : เข้าใจ pattern ที่เห็น
  • Apply : ประยุกต์ ปรับใช้
  • Analyze : วิเคราะห์
  • Evaluate : ประเมินผลงาน
  • Create : สร้างสรรค์

3 ขั้นตอนสุดท้าย สำคัญมาก เพราะมันไม่ใช่แค่การ copy & paste แต่เป็นการ Analyze, Evaluate, Create เพื่อสร้างสิ่งใหม่

Website คือ บ้านของเรา🏠

Google Search มี Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมี Market Share ถึง 90% ดังนั้น ถ้าทำ

Search Engine Optimize (SEO) ดี = เขียนดี > Content คุณภาพ > ภาพสวย > โหลดไว > เข้าถึงคนได้ง่าย เว็บไซต์ของเราก็จะมีอันดับดีขึ้นเรื่อยๆ และสามารถติดหน้า 1 ของ Google ได้ไม่ยาก

ข้อดีของการมีเว็บไซต์ของตัวเอง ก็เปรียบเหมือนเรามีบ้านเป็นของเราเอง ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับ algorithm บน social media platform ที่ทั้งเปลี่ยนบ่อย และไม่รู้ว่าจะนำส่ง content ของเราไปถึงคนดูเมื่อไหร่ บางครั้ง content ดีๆของเราก็กลายเป็น spam ได้เลย

ทำ SEO ให้เก่งยังไง ?

พี่ทอยบอกว่า ในโลกนี้ไม่มีใครรู้แบบ 100% เลยว่า Google SEO ทำงานยังไง แม้แต่คนที่ทำงานใน Google เองยังไม่สามารถอธิบายแบบเป๊ะๆได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกันคือ Core principle ของการทำ SEO คือ การสร้าง Content ที่ดี ทักษะการเขียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ

Tips of SEO
  • Quality > Quantity เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
  • เขียนแบบ long form
  • เลือก keyword ให้เหมาะสม (สำคัญมาก เพราะเป็นตัวแปรสำคัญในการติดหน้า 1 google)
  • ทำในเรื่องที่เราสนใจจริงๆ ที่สำคัญคือเรื่องนั้นต้องมีคนรออ่านอยู่
  • ปัจจัยอื่นๆ ex. รูปสวย, Web โหลดไว(optimize ได้ไม่ยาก WordPress ช่วยได้)

Website Builder

  • WordPress : 43% ของโลกรันอยู่บนนี้
  • Wix
  • Webflow
  • Squarespace : มาแรงใน creator ต่างประเทศ
  • Medium : นิยมใช้เขียนบทความ (แต่ SEO สู้ WordPress ไม่ได้)
  • Ghost : Blog + Newsletter

Four Eternal Markets

จากหนังสือ Expert Secrets(2017) ของ Russell Brunson เล่าเรื่อง Eternal Markets

ถ้า content ที่เราทำขึ้น สามารถตอบโจทย์อย่างใดอย่างหนึ่งใน 4 เรื่องนี้ได้ ได้แก่

  • Health : สุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องออกกำลังกาย อาหารการกิน สุขภาพจิต (เสพสิ่งนี้แล้ว สุขภาพดีขึ้น)
  • Wealth : ความมั่งคั่ง การหารายได้เสริม ภาษี การลงทุน (เสพสิ่งนี้แล้ว สุขภาพทางการเงินดีขึ้น)
  • Relationship : ความสัมพันธ์ส่วนตัว ออฟฟิศ(เจ้านาย-ลูกน้อง) ครอบครัว (เสพสิ่งนี้แล้ว Relationship ดีขึ้น)
  • Happiness : entertainment (เสพสิ่งนี้แล้ว มีความสุข หัวเราะได้ ยิ้มได้)

4 สิ่งนี้จะช่วยให้ content ของเรามีโอกาสตอบรับ หรือได้รับความสนใจจากผู้คนได้เยอะมากๆ

Content Example

  • Health : BEBE, SquatCouple
  • Wealth : พี่หนุ่ม Money Coach, The Standard Wealth, พี่หนอม TAXBugnoms
  • Relationship : Mission To The Moon, The MATTER, 8 บรรทัดครึ่ง, เกลา
  • Happiness : เทพลีลา, โครตคูล

วิธีเลือกหนังสือ

Tips เลือกหนังสือ
  • เนื้อหาตอบโจทย์ชีวิตของเรา ณ เวลานั้นไหม
  • Review ดีไหม ถ้าตอบโจทย์และรีวิวดี เกณฑ์ที่แอดทอยใช้คือ >= 4.5 คะแนน อย่างน้อย 100 review แบบนี้ซื้อได้เลย เพราะ Review คือ Signal นึงที่ช่วยกรองหนังสือที่เราจะอ่านได้ดี

เพราะการอ่านทำให้เราคิด เขียน และสร้าง content ได้ดีขึ้น You are what you read.(& consume) ดังนั้น วิธีการเลือกหนังสือ เพื่อ input เข้าไปจึงสำคัญ เราอ่านหนังสือ 100 เล่มยังไม่เท่าหนังสือเล่มเดียวที่มีคุณภาพและเปลี่ยนชึวิตเราได้ เฉียบบ55++


จบไปแล้วสำหรับสรุปคอร์ส Writing 101

📝ใครสนใจอยากลงเรียนคอร์สฟรีดีๆ มี Digital Certificate ย้ำว่าฟรี !!! สมัครได้ที่ https://datarockie.co/writing-101

🙏 ขอบคุณความรู้ดีๆจาก พี่ทอยจากเพจ DataRockie


ใส่ความเห็น