Standas Not Standard

1. เทคนิค SMART GOALS คืออะไร?
   1. S = Specific (เฉพาะเจาะจง)
   2. M = Measurable (วัดผลได้)
   3. A = Achievable (ทำสำเร็จได้)
   4. R = Relevant (สอดคล้องกับชีวิตจริง)
   5. T : Time-Bound (มีกรอบเวลาชัดเจน)

เคยไหม

ที่ต้นปี มานั่งวางแผนเรื่องการเงินว่าปีนี้จะทำอะไรบ้าง

• ลงทุน
• เก็บเงินแสนเงินล้าน
• เก็บเงินซื้อรถ ซื้อบ้าน

แต่พอมารีวิวปลายปีทีไรไปไม่ถึงเป้าทุกที

Goal ที่ตั้งไว้ ก็ไปไม่ถึง งั้นจะวางแผนการเงินต้นปีไปทำไมละ ? วันนี้เรามีเทคนิคการวางแผนการเงินที่ใช้ได้จริงมาแนะนำกัน

พอดีเราเพิ่งอ่านหนังสือ “ความลับสู่ เงินล้าน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน” จบ

แล้วเจอหลักการ ตั้งเป้าหมายการเงินด้วยเทคนิค SMART GOAL พอดี ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำได้จริง ทำง่าย และถึงเป้าหมายได้จริง

เทคนิค SMART GOALS คืออะไร?

SMART GOAL คือ เทคนิคการตั้งเป้าหมายการเงินที่ทำให้เป้าหมายเรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน จับต้องได้ และวัดผลได้จริง โดย

S = Specific (เฉพาะเจาะจง)

เป้าหมายควรมีความชัดเจน แทนที่ต้นปีเราจะตั้งเป้าหมายว่า

ปีนี้จะมีเงินออมให้ได้

เปลี่ยนเป็น

ปีนี้ฉันจะออมเงินเพื่อเรียนต่อป.โทจำนวนเงิน 200,000฿ (เฉพาะเจาะจง เห็นภาพชัดเจน)

M = Measurable (วัดผลได้)

เป้าหมายที่ตั้งควรวัดผลเป็นตัวเลข หรือเปอร์เซ็นได้ เพื่อจะได้รู้แน่ชัดว่าเรากำลังอยู่จุดไหน

เช่น

ฉันจะเก็บเงินเดือนละ 6,000฿ หรือ 20% ของรายได้เพื่อเรียนต่อป.โท

[ วัดผลได้จริงตามตัวเลข สมมติ เงินเดือน 30,000฿ x 20% = 6,000฿ ]

A = Achievable (ทำสำเร็จได้)

** สำคัญ

เป้าหมายที่ตั้งควรเป็นสิ่งที่เราทำได้จริงตามเงื่อนไขชีวิตของแต่ละคน

พิจารณาจากรายได้ รายจ่าย และเงื่อนไขความจำเป็นของแต่ละคน

เช่น เงินเดือน 30K รายจ่าย 15K(50%) การเก็บเงินเดือนละ 20% หรือ 6,000฿ ทุกเดือนนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้จริง

R = Relevant (สอดคล้องกับชีวิตจริง)

ทุกเป้าหมายการเงินควรสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิต

เช่น เป้าหมายชีวิตคุณคืออยากเกษียณไว

การเกษียณไวมีได้หลายแนวทาง

แต่เราเลือกการพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น > เพื่ออัพค่าตัวให้เพิ่มมากขึ้น > จึงเป็นปัจจัยที่สอดคล้องกับเป้าหมายการเงินที่ตั้งไว้ นั่นคือ “อยากออมเงินเรียนป.โท”

T : Time-Bound (มีกรอบเวลาชัดเจน)

** สำคัญมาก

ทุกเป้าหมายควรมีกรอบเวลาที่ชัดเจน จะได้ไม่เป็นข้ออ้างของการผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ หลายคนไม่ตั้งกรอบเวลาที่ชัดเจน หรือมีการตั้ง แต่ตั้งแบบทำไม่ได้จริง(ไม่สอดคล้องกับ M และ A ด้านบน) เช่น

• อยากออมเงินเรียนป.โท 200,000฿ ภายใน 1 ปี แต่ไม่ได้พิจารณาเงื่อนไขชีวิตของตัวเองที่ว่า
  • เงินเดือน 30K
  • Fixed cost 15K/เดือน
• อยากเก็บ 200K ใน 1 ปี/12เดือน เท่ากับ เก็บเดือนละ 16.7K

.

พิจารณาแค่นี้ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว ยกเว้นแต่ว่าจะมีรายได้เสริมเพิ่มเติม แต่ถึงยังไงก็ดูจะเป็นเป้าหมายที่ทำได้ยาก และไม่มีความสุขอยู่ดี ท้ายที่สุดก็อาจต้องล้มเลิกไป

ดังนั้น เวลาที่กำหนดเป็นเรื่องสำคัญ อย่างในเคสนี้ วิธีแก้ที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้มี 2 ทางคือ

▪️หารายได้เพิ่ม หรือ ▪️เพิ่มระยะเวลา

.

เราขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างการเพิ่มระยะเวลาละกัน

• เงินเดือน 30K
• Fixed cost 15K/เดือน

เป้าหมายที่ดีคือ ออมเงินเรียนป.โท 200,000฿ ภายใน 3 ปี/ 36 เดือน

เท่ากับว่าเราจะออมเดือนละ 5.56K แทน ซึ่งเมื่อรวมกับ Fixed cost แล้ว ยังไงสุทธิ กระแสเงินสดเราก็จะยังคงเป็นบวก ทำได้จริง และไม่เครียดด้วย

.

อ่านจบแล้วอยากให้ทุกคนลองไปตั้งเป้าหมายการเงินของตัวเองกันดูน้า หรือใครเคยใช้วิธีนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง มาแชร์กันได้

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบน้าา

พิกัดหนังสือ : ความลับสู่ เงินล้าน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน

https://s.shopee.co.th/3ArnUa7Vtq