เมื่อ วินัย ไม่ใช่การฝืนใจทำสิ่งที่ เกลียด

Self-discipline (Dan Koe)

ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า “วินัยในตนเอง” คือการบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่เกลียด วันนี้คุณอาจต้องคิดใหม่ บทความนี้สรุปแนวคิดที่พลิกมุมมองจาก Dan Koe ในวิดีโอ “How To Become So Self-Disciplined It Feels Illegal” ซึ่งจะทำให้คุณได้สำรวจว่า ทำไมวิธีคิดเรื่องวินัยแบบเดิมๆ ถึงใช้ไม่ได้ผล และทำไมกุญแจสำคัญที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การ “ฝืน” แต่อยู่ที่การ “ค้นพบ” ความเป็นตัวเอง มาดูกันว่าแนวคิดนี้จะเปลี่ยนความเข้าใจเรื่องวินัยของคุณได้อย่างไร

แนวคิดเรื่อง “วินัยในตนเอง” (self-discipline) มักถูกเข้าใจผิดอย่างมาก คนส่วนใหญ่มักนึกถึงภาพการบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่เกลียด เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่อาจไม่ใช่ของตัวเองด้วยซ้ำ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เกลียดการเดินทางของตัวเองเลย พวกเขารักในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารเพื่อสุขภาพ การทำงานในธุรกิจ หรือการทำสิ่งที่คนทั่วไปมองว่ายาก

การรักในกระบวนการนี้เอง คือ “ความได้เปรียบในการแข่งขัน” ของพวกเขา ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าต้อง “บังคับ” ตัวเองให้ทำอะไรบางอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย นั่นเป็นสัญญาณว่าวิธีการของคุณอาจมีปัญหา

Photo by Anush Gorak on Pexels.com

ความจริงที่น่าสนใจคือ มนุษย์เราทุกคนมีวินัยในตนเองอยู่แล้ว แต่มันถูกใช้ไปเพื่อเป้าหมายที่ถูกปลูกฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเป้าหมายของการ “คงสภาพเดิม” ของชีวิตไว้

เมื่อคุณพยายามจะสร้างวินัยเพื่อเป้าหมายใหม่ๆ เช่น การสร้างธุรกิจ หรือการลดน้ำหนัก แต่กลับล้มเหลว นั่นเป็นเพราะ วินัยที่แข็งแกร่งกว่ากำลังทำงาน เพื่อรั้งให้คุณเป็นคนเดิมที่คุณพยายามจะหนี

วินัยจึงไม่ใช่สิ่งที่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ แต่เป็นคุณสมบัติที่เป็นส่วนหนึ่งของ “ตัวตน” (Identity) ของคุณอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนดีเด่นไม่ได้รู้สึกว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องยาก, นักเพาะกายไม่ได้ลำบากใจที่จะไปยิมทุกวัน, หรือแม้แต่เกมเมอร์ก็สามารถเล่นเกมได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกฝืนใจ

เพราะนั่นคือตัวตนของพวกเขา ดังนั้น กุญแจสำคัญของการมีวินัยที่ยั่งยืน คือการเปลี่ยนตัวตน ไม่ใช่การฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบ

กระบวนการสร้างวินัยที่แท้จริงเริ่มต้นจากการยอมรับว่าคุณกำลังอยู่ใน “สภาวะลิมโบ” (limbo) หรือ ก็คือภาวะที่คุณเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเพื่อไปสู่ชีวิตที่ต้องการ

ความเจ็บปวดจากสภาวะนี้ คือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง แทนที่จะกระโดดไปบังคับตัวเองให้มีวินัยทันที คุณต้องใช้ความเจ็บปวดนี้เป็น “ห้องทดลอง” ในการ สำรวจ และตระหนักรู้ให้ลึกซึ้งถึงความเจ็บปวดของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

✍️เขียนทุกสิ่งที่คุณเกลียดเกี่ยวกับชีวิตตอนนี้ และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น หากคุณไม่เปลี่ยนแปลงออกมา จากนั้นใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์คิดถึงมัน สังเกตสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และพยายามหาข้อเสียเพิ่มเติมของสิ่งเหล่านั้น

🎯เป้าหมายคือ การทำให้ความเจ็บปวดของการอยู่ที่เดิม มีน้ำหนักมากกว่าความเจ็บปวดจากการลงมือทำสิ่งใหม่ เมื่อคุณเกลียดชีวิตปัจจุบันมากพอ การลงมือทำสิ่งที่เคยคิดว่ายากจะกลายเป็นทางเลือกเดียวที่คุณต้องการจะทำ

4 ขั้นตอนเปลี่ยนตัวตน: สร้างวินัยแบบที่ไม่ต้อง “ฝืน”

หลังจากนั้น วินัยจะไม่ได้ถูก “สร้าง” ขึ้น แต่จะถูก “ค้นพบ” ผ่านการทดลอง โดยอาศัย 4 องค์ประกอบสำคัญคือ:

  1. การตระหนักรู้ถึงปัญหาที่เจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง
  2. หาหลักฐานเพื่อสนับสนุนตัวตนในอนาคตที่คุณอยากเป็น
  3. การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทั้งทางกายภาพ และดิจิทัลเพื่อตอกย้ำตัวตนใหม่
  4. การจัดสรรเวลาในแต่ละสัปดาห์เพื่อทำสิ่งเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ

เริ่มจาก การตระหนักรู้” (Recognition) ว่าเป้าหมายที่คุณมีอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่มาจากการถูกปลูกฝังโดยสภาพแวดล้อม และคุณอาจไม่เคยเลือกมันด้วยตัวเองเลย

ต่อมาคือ “การสร้างความขัดแย้งเชิงกลยุทธ์” (Strategic Dissonance) โดยการปล่อยให้ช่องว่างระหว่างตัวตนปัจจุบัน และตัวตนที่คุณอยากเป็นกว้างขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างความไม่พอใจในชีวิตปัจจุบัน สิ่งนี้จะทำให้สมองของคุณเริ่มมองหา และเปิดรับข้อมูลใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

จากนั้น จัดการสภาพแวดล้อม” (Environment Engineering) ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล คุณสามารถคัดกรองสิ่งที่คุณเสพได้โดยการเลิกติดตามคนที่ไม่โพสต์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชีวิตของคุณ, กำจัดอาหารขยะในบ้านที่คุณมักจะแอบกินตอนตี 3 ออกไปให้หมด, และที่สำคัญคือการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มคน สถานที่ หรือข้อมูลที่มอบความรู้และเทคนิคใหม่ๆ

Photo by Magnus Mueller on Pexels.com

ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียจากการเลื่อนดูตามที่อัลกอริทึม แนะนำเป็นการค้นหาเฉพาะหัวข้อที่คุณสนใจจริงๆ การกระทำเช่นนี้เป็นการเปลี่ยนจากการเสพสื่อแบบไร้เป้าหมาย มาเป็นการใช้สื่ออย่างมีเป้าหมายและสร้างประโยชน์ต่อตนเอง

และสุดท้ายคือ การทดลองด้วยตนเอง” (Self-Experimentation) แทนที่จะทำตามเป้าหมายที่คนอื่นตั้งให้ ลองทำทุกอย่างจนกว่าจะเจอสิ่งที่ใช่สำหรับคุณจริงๆ สิ่งที่คุณทำแล้วรู้สึกสนุกจนหยุดไม่ได้ จากนั้นทำซ้ำๆ จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนใหม่ของคุณ เมื่อคุณเปลี่ยนเป้าหมายให้กลายเป็นเกมที่สนุกและท้าทาย คุณจะไม่รู้สึกว่าการลงมือทำเป็นเรื่องยากอีกต่อไป

สรุป

แนวคิดของ Dan Koe ได้ทลายความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าวินัยคือการลงโทษตัวเอง แต่ได้เสนอมุมมองใหม่ว่า วินัยที่แท้จริง คือผลพลอยได้จากการเปลี่ยนแปลงตัวตนที่มาจากข้างใน

มันไม่ใช่การ “สร้าง” สิ่งที่ไม่มีอยู่ แต่เป็นการ “ค้นพบ” สิ่งที่เป็นธรรมชาติสำหรับตัวตนใหม่ของคุณ เมื่อคุณเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความเจ็บปวดของชีวิตปัจจุบัน คุณจะจัดการสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง และค้นหาสิ่งที่คุณรักที่จะทำผ่านการทดลองอย่างไม่หยุดยั้ง

“วินัย” จะกลายเป็นเรื่องง่ายดายและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณโดยอัตโนมัติ เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่มีวินัยที่สุดไม่ใช่คนที่ฝืนทนได้เก่งที่สุด แต่คือคนที่ได้เปลี่ยนเป้าหมายของตนให้กลายเป็นเกมที่สนุกจนไม่อยากหยุดเล่นต่างหาก

ขอขอบคุณ วิดีโอพอดแคส ดีๆจาก : คุณ Dan Koe
สามารถรับชมคลิปแบบเต็มๆได้ที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=SutAIv68yNk&t=420s


ใส่ความเห็น